วันอาทิตย์ที่ 25 ธันวาคม พ.ศ. 2554

วินิจฉัยที่หัวใจหลัก

และนี้คือสิ่งที่เป็นหัวใจสำคัญที่สุด


“ตลาดหุ้นไม่ใช่สิ่งที่ขับเคลื่อนสภาวะทางเศรษฐกิจ แต่มันคือสิ่งที่ “สะท้อน” สภาวะทางเศรษฐกิจออกมา และความสามารถที่จะเข้าใจในสิ่งนี้ได้อย่างลึกซึ่งคือสิ่งที่สำคัญ”


       ประโยคนี้เป็นประโยคง่ายที่ฟังดูเหมือนว่าจะไม่ได้ซับซ้อนอะไร แต่ว่าลึกซึ้งที่สุดจากทั้งบทความของ คำสอนแห่งตำนานการลงทุน : Teaching From Investment Legend Bernard Baruch และนี้ คือสิ่งที่ยืนยันได้เป็นอย่างดี
      *Baruch เชื่อว่าข้อผิดพลาดที่สำคัญสองประการ ซึ่งทำให้เขาสูญเสียเงินทองไปอย่างมากมายในช่วงปีแรกๆของการลงทุนนั้น ไม่แตกต่างจากความผิดพลาดที่นักลงทุนส่วนใหญ่คนอื่นๆได้พบเจอ นั่นก็คือ 1) “พวกเขารู้ข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการบริหารงานของบริษัท, ผลกำไร, โอกาสและความน่าจะเป็นของการเติบโตทางธุรกิจที่น้อยจนเกินไป” และ 2) “พวกเขามักที่จะเก็งกำไรจนเกินตัว” . . . .. . โดยเฉพาะข้อ 1) ที่สอดคล้องกับ “ตลาดหุ้นไม่ใช่สิ่งที่ขับเคลื่อนสภาวะทางเศรษฐกิจ แต่มันคือสิ่งที่ “สะท้อน” สภาวะทางเศรษฐกิจออกมา และความสามารถที่จะเข้าใจในสิ่งนี้ได้อย่างลึกซึ่งคือสิ่งที่สำคัญ” ได้เป็นอย่างดี และนี้ คือ อีกหนึ่งการยืนยัน
      *Baruch ได้เปรียบเปรยเอาไว้ว่า ตลาดหุ้นนั้นก็เหมือนปรอทวัดไข้ ส่วนสภาพเศรษฐกิจก็เหมือนกับอาการของไข้ โดยเขาได้กล่าวเพิ่มเติมอีกว่า “ตลาดหุ้นไม่ใช่สิ่งที่ขับเคลื่อนวัฏจักรทางเศรษฐกิจ เพียงแต่สะท้อนถึงมัน (สภาวะทางเศรษฐกิจ) และความเชื่อเกี่ยวกับอนาคตของธุรกิจต่างๆของเหล่านักเก็งกำไร-นักลงทุน
      หวังว่าเพื่อนๆ จะเริ่มแข้าใจเเล้วนะว่า อะไรคือของจริง และอะไรคืดสิ่งที่เป็นเพียงภาพสะท้อนออกมาเท่านั้น
      สำหรับตอนนี้ นึกไม่ออกจริงๆ ว่าหนังเรื่องไหนเหมาะกับมัน อิอิ Black Swan ก็น่าจะได้ เพราะภาพสะท้อนมันหลอกหลอนให้เราสับสน (ถูๆ ไถๆ ไปก่อนนาาา)
อ้างอิง http://mangmaoclub.com/baruchs-teaching/
เครดิต @mudleygroup ผู้ทำให้รู้จักชื่อ Bernard Baruch จากประโยคสร้างสรรค์ "Show me the charts, and I'll tell you the news." Bernard Baruch

วันเสาร์ที่ 24 ธันวาคม พ.ศ. 2554

ความยืดหยุ่น…

      แหม~~~!!! กำลังจะเขียนหัวข้อต่อไปเรื่อง "ความยืดหยุ่น" พอดี ก็อ่านลงมาเจอ หัวข้อนี้สะงั้น
      *Baruch เก็งกำไรทั้งสองทาง นั่นคือทั้งซื้อหุ้น (Long) และขายหุ้น (Short) โดยเขาได้กล่าวเอาไว้ว่า “การมีความความยืดหยุ่นนั้น เป็นสิ่งที่ไม่อาจมองข้ามไปได้”
คงจะชัดเจนแล้วว่า ความหลากหลายในมิติของการมองเข้าไปในหุ้นสร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆ ให้เราได้รู้สึกซาบซึ้งกับมันตลอดเวลา แต่หัวใจของการผสมมิติ ก็คือ ความยืดหยุ่นนี่เเระ (คิดถึงหมัดยางยืดของลูฟี่ จริงๆ)  อิอิ
      เอาละ! เจอแล้ว ประโยคที่ยืนยันความยืดหยุ่นของ Baruch
      “กระทำตามสิ่งที่ตลาดกำลังทำอยู่ในขณะนั้น แทนที่จะกระทำตามสิ่งใดๆที่ใครบางคนคิดเอาเองว่าตลาดควรจะทำเช่นไร” และเขายังได้กล่าวไว้ว่า “ทุกๆคนมีสิทธิที่จะคิดและมีความเห็นเป็นของตนเอง แต่ไม่มีสิทธิที่จะปฎิเสธต่อข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น”
      สังเกตนะ “ทุกๆคนมีสิทธิที่จะคิดและมีความเห็นเป็นของตนเอง แต่ไม่มีสิทธิที่จะปฎิเสธต่อข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น
อ้างอิง http://mangmaoclub.com/baruchs-teaching/
เครดิต @mudleygroup ผู้ทำให้รู้จักชื่อ Bernard Baruch จากประโยคสร้างสรรค์ "Show me the charts, and I'll tell you the news." Bernard Baruch

วันพฤหัสบดีที่ 22 ธันวาคม พ.ศ. 2554

“ความจริง” ที่พึ่งพิงของใจเรา

   นี่เป็นอีกส่วนนึง ของ Bernard Baruch หลังจากที่เขาได้สูญเสียเงินทุนไปอย่างมากมายจากการ “ฟัง” คนอื่น เขาได้พบถึงควาสำคัญของการยอมรับต่อข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น โดยเขาได้กล่าวไว้ว่า “คนเราต้องรู้จักค้นหาความจริงจากความซับซ้อนและรายละเอียดต่างๆที่สับสนวุ่นวาย เพื่อที่จะได้ซึ่งข้อเท็จจริงที่ชัดเจน” เขายังได้กล่าวอีกว่า “เมื่อเราได้พบว่าข้อเท็จจริงคืออะไรแล้ว มันเป็นสิ่งจำเป็นที่เราจะต้องสามารถทำสิ่งต่างๆตามข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นได้อย่างเยือกเย็นและชำนาญการ”
ขอเน้นประโยคนี้ก่อน  “คนเราต้องรู้จักค้นหาความจริงจากความซับซ้อนและรายละเอียดต่างๆที่สับสนวุ่นวาย เพื่อที่จะได้ซึ่งข้อเท็จจริงที่ชัดเจน”
ในความสับสนวุ่นวายแน่นอนว่ามันกำลังวื่งเข้าหาผลลัพธ์อย่างใดอย่างหนึ่ง ซึ่งการชั่งน้ำหนักความสำคัญ จะกรองให้เรารู้ว่า เรื่องหลักจริงๆ นะคืออะไร
ประโยคต่อมา “เมื่อเราได้พบว่าข้อเท็จจริงคืออะไรแล้ว มันเป็นสิ่งจำเป็นที่เราจะต้องสามารถทำสิ่งต่างๆตามข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นได้อย่างเยือกเย็นและชำนาญการ” ขอเน้น "ทำสิ่งต่างๆตามข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นได้อย่างเยือกเย็นและชำนาญการ" ตรงนี้ เพราะสิ่งที่วุ่นวายจะทำให้เราสับสน มันเบี่ยงเบนความสนใจของเราไปจากประเด็นหลักที่มันต้องการที่จะกระทำจริงๆ และเมื่อความวุ่นวายมันปกคลุมทุกอย่าง!! ถ้าจะเปรียบคือ ความผันผวนในตลาด สร้างความสับสนเเละวุ่นวายให้เกิดขึ้น เราจึงต้องอยู่กับประเด็นหลักให้ได้ ซึ่งแน่นอนว่า มันยากมากสำหรับมือใหม่ แม้ว่าจะรู้อยู่แก่ใจ ก็ยังหลงระเริงไปกับความผันผวน นี่แหละนะที่เขาเรียกว่าแมงเม่าบินเข้ากองไฟ (เห็นภาพป่ะจ๊)
    สุดท้าย

  "การพึ่งพาตนเองและการวิเคราะห์สิ่งต่างๆด้วยตนเองคือสิ่งที่จำเป็นในตลาดหุ้น"

     กด Like หั้ยเลย โฮะๆๆๆ


หนังที่เหมาะกับตอนนี้คือเรื่อง Chaos นะคะ ^^V สู้ๆ
อ้างอิง http://mangmaoclub.com/baruchs-teaching/
เครดิต @mudleygroup ผู้ทำให้รู้จักชื่อ Bernard Baruch จากประโยคสร้างสรรค์ "Show me the charts, and I'll tell you the news." Bernard Baruch

ความคิด มีพิษยิ่งกว่าไวรัส

วันนี้ยกประโยคเด็ดจาก Bernard Baruch มาให้ทุกคนได้อ่านกัน และจงเชื่อเช่นนั้น จนมันกลายเป็นไวรัสฝังเข้าไปในสมองทุกๆ ส่วนเลย ประโยคเด็ดที่ว่า คือ “นักเก็งกำไรที่ประสบความสำเร็จ คือบุคคลที่มีวิสัยทัศน์และกระทำสิ่งต่างๆก่อนที่มันจะเกิดขึ้น”
จริงๆ แล้วตอนที่เราไปฝึกงานในโบรกเกอร์ รึ พูดคุยกับนักลงทุน แลกเปลี่ยนไอเดียกัน ประโยคที่ใช้อ้างง่ายๆ เพื่อยอมรับการพ่ายเเพ้คือ "ไม่มีใครรุ้หรอกว่ากราฟจะเป็นยังไง ตลาดจะเป็นยังไง"
        ใช่ ชั้นไม่เถียงพวกคุณให้เสียเวลาหรอก
        แต่ว่า นี้คือเคล็ดลับ การที่เราเชื่อว่าชั้นรู้มัน และจะดักตีหัวมันได้สำเร็จ มันจะบีบรัดให้สมองของเราทำงานเพื่อหาหนทางในการชนะ ความรู้ในสมองของเราจะกลั่นกรองทุกสิ่งทุกอย่างเพียงเพื่อชัยชนะเท่านั้น
เอาละ นี่คือ การปลูกฝังไวรัสเข้าไปในสมองเหมือนเรื่อง Inception และแน่นอนว่าผลลัพธ์ของมันงดงามมาก อย่าให้การขาดทุนในช่วงต้นของการฝึกฝน ทำให้คุณทิ้งประโยคนี้ไป เเล้วหันไปโทษตลาดว่า "ไม่มีใครรู้หรอกว่าตลาดจะเป็นยังไง" เพราะว่า

"คุณจะเป็น ในสิ่งที่คุณเชื่อ"

         ฝากกระจายบลอคหน่อยนะ เค้าไม่อยากให้มันตายไปกับตัว ใครที่เข้าใจ อ่านปุ๊บจะได้ตาสว่าง เพราะตอนที่ใช้ความคิดแบบนี้ยอมรับว่า Limitless จริงๆ มันประหลาดใจกับสิ่งที่เกิดขึ้นกับตัวเองมากๆ พอๆ กับตอนที่นางเอกกลัวพระเอกอะแหละ ^^
สุดท้ายนี้ จงหายใจเข้าเพื่อชัยชนะ หายใจออกเพื่อชัยชนะ ส่วนเรื่องความดี "มันอยู่ที่คน" ไม่ใช่เพราะว่าคุณเเพ้ รึ ชนะ
อ้างอิง http://mangmaoclub.com/baruchs-teaching/
เครดิต @mudleygroup ผู้ทำให้รู้จักชื่อ Bernard Baruch จากประโยคสร้างสรรค์ "Show me the charts, and I'll tell you the news." Bernard Baruch

วันจันทร์ที่ 19 ธันวาคม พ.ศ. 2554

อยู่ดีๆ ก็โดนธนูปักกันทั่วบ้านทั่วเมือง

ไปดูตามบอร์ดในพันธุ์ทิพย์ Facebook หรือ Tweitter มักจะเจอ ไอ้ประโยคพวก

“เมื่อก่อนเลยเป็น… จนกระทั้งโดนธนูปักที่หัวเข่า”

มันคืออะไร? ก็งงๆ นั่งคนในเนทจนพบคำตอบ

เฉลย มันคือบทพูดของ NPC จำพวกยามเฝ้าเมืองในเกมส์ Skyrim ที่ทุกคนที่เล่นเกมส์นี้จะต้องเจอบ่อยๆ ไม่ว่าจะไปที่ไหน นั่นคือประโยค

“I used to be an adventurer like you, then I took an arrow in the knee. ”

“ฉันก็เคยเป็นนักผจญภัยเหมือนกันนะ จนกระทั้งโดนธนูปักที่หัวเข่าจึงต้องมาเป็นยาม”

และด้วยเป็นเกมส์ RPG กึ่ง Action ที่ดังที่สุดในชั่วโมงนี้ ทำให้คำว่า “ธนูปักเข่า” แพร่กระจายอย่างรวดเร็ว ซึ่งมุข “ธนูปักเข่า” จะใช้ในกรณีที่สถานการณ์พลิกจากหน้ามือเป็นหลักมือ หรืออาจจะเป็นเหตุการณ์ที่ดีไปสู่เลวร้าย หรือเหตุการณ์ที่เลวร้ายไปสู่ดีอะไรทำนองนั้น ดูคลิปด้านล่างประกอบได้เลย

วันอาทิตย์ที่ 18 ธันวาคม พ.ศ. 2554

เบื่อที่จะกั๊ก รักที่จะเขียน

ไหนๆ ก็ไหนๆ คิดว่าคงจะชวดอดได้ในสิ่งที่ต้องการเเล้วละ แต่ว่าก็เทรดในตลาดมาระยะนึงถึงจะไม่ต่อเนื่องแต่ก็อยากจะเก็บสิ่งที่เคยพบเจอไว้ ไม่อยากให้มันหายไปเฉยๆ บลอคนี้จะเป็นบลอคที่ใส่ทุกอย่างไว้ชนิดไม่มีกั๊ก เพื่อว่าวันนึงเรามองย้อนกลับมาจะได้ไม่เสียใจ เพราะเราทำเต็มที่แล้ว เเละโดยส่วนตัวก็ไม่เคยคิดว่าตัวเองเก่งอะไร ยิ่งเรื่องการเขียนอธิบายยิ่งยอดเเย่ เอาเป็นว่ารวมๆ มันไว้ในบลอคนี้เเล้วกัน
เอาทีละเรื่องไปยาวๆ เลยเเล้วกัน

วันจันทร์ที่ 12 ธันวาคม พ.ศ. 2554

เกริ่นนำ - เปิดฉาก Diary ฉบับ Trader

 

บล็อกนี้จัดทำขึ้นเพื่อให้มือใหม่คนหนึ่งได้แบ่งปันให้โค้ชได้อ่าน และอยากจะกราบแทบเท้าโค้ชว่า "อย่าทิ้งหนู หนูดื้อตีหนูได้ แต่อย่าทิ้งกัน" เพราะนักกีฬาที่เก่ง มีโค้ชที่เก่งกว่าสั่งนักกีฬาอยู่
คำว่าการเล่นหุ้น คงไม่ใช่การนั่งหน้าจอมองกราฟทั้งวันแล้วจะกลายเป็นนักเล่นหุ้นผู้ยิ่งใหญ่ได้เพราะถ้าเป็นเช่นนั้นจริงคงมีคนรวยในโลกใบนี้มากเกินไป แต่ทว่า หุ้น นั้น มีหลากหลายมิติให้ชวนหลงใหลเหลือเกิน